แสงแดด ถือเป็นหนึ่งในศัตรูตัวฉกาจของสาว ๆ ทุกวัย
เพราะนอกจากจะทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำแล้ว ยัีงพ่วง “ริ้วรอย” มาให้อีกด้วย
ผู้หญิงส่วนใหญ่อาจคิดว่าริ้วรอยจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่ออายุของเราเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
แต่แท้จริงแล้ว ริ้วรอยบนใบหน้าของเรานั้น เกิดขึ้นจากภัยของแสงแดดถึงร้อยละ 90 เลยทีเดียว และนี่คือสาเหตุว่าทำไม
แม้เราจะมีอายุเพียงแค่เลข 2 นำหน้า
แต่ริ้วรอยก็เริ่มมาให้เห็นแล้ว
ครีมกันแดดแบบไหนที่ใช่สำหรับผิวคุณ
เลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวคุณเอง
โดยถ้าหากคุณเป็นสาวผิวมัน ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่เป็นเจลหรือโลชั่น
เพื่อที่จะไม่เพิ่มความมันให้กับใบหน้าของคุณ
พร้อมทั้งยังสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวหนังได้เป็นอย่างดี
ในทางตรงกันข้าม หากคุณเป็นสาวผิวแห้ง
ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่เป็นเนื้อครีม ซึ่งมีส่วนประกอบของน้ำมัน
เพื่อช่วยทำให้ผิวเกิดความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น
ปกป้องผิวอย่างมั่นใจ
ด้วยการเลือก spf ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณ
ใครว่าผู้หญิงควรมีครีมกันแดดเพียงแค่ขวดเดียว
เมื่อเราต้องเผชิญกิจกรรมที่แตกต่างกันในแต่ละวัน เราก็ควรจะเลือกค่า spf ของครีมกันแดดให้เข้ากับปริมาณของแสงแดดที่เราจะเจอในวันนั้นๆ
เช่น หากวันนั้นคุณไม่ต้องเผชิญกับแสงแดดมาก
กลางวันทำงานเฉพาะภายในออฟฟิศ ครีมกันแดดที่มีค่า spf 15 ก็สามารถปกป้องผิวได้อย่างเพียงพอแล้ว
แต่หากคุณต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานานก็ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า spf
สูงกว่า spf 30 ขึ้นไป
และหากต้องทำกิจกรรมทางน้ำ อาทิ ว่ายน้ำ ไปทะเล
หรือแม้แต่เล่นกีฬากลางแจ้งที่ทำให้เสียเหงื่อเยอะ สาว ๆ
ก็ควรจะเลือกใช้ครีมกันแดดที่เป็นสูตรกันน้ำแทน
สำหรับสำหรับสาว ๆ
ยุคใหม่ที่ทำกิจกรรมหลายอย่างในหนึ่งวัน
ต้องเผชิญกับรังสียูวีหลากหลายรูปแบบก็ควรจะเลือกครีมกันแดดที่มีค่า spf มากพอที่จะปกป้องผิวได้ในทุกสถานการณ์
แต่ยังคงความบางเบา ทาง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ
เพื่อให้เหมาะแก่การใช้ในชีวิตประจำวัน
โดยเทคนิคง่าย ๆ ในการทาครีมกันแดดให้ไม่เกิดคราบนั้น
หลังจากที่ทามอยซ์เจอไรเซอร์ลงบนใบหน้า
ให้เว้นระยะเวลาสักพักหนึ่งเพื่อให้ครีมได้ซึมซาบลงบนผิวหน้าก่อน
ซึ่งหากคุณเป็นสาวผิวมัน อาจจะใช้กระดาษทิชชู่แผ่นใหญ่วางทาบลงบนผิวหน้า
พร้อมใช้ปลายนิ้วกดลงเบาๆ เพื่อซับน้ำมันส่วนเกินออก
ต่อมาด้วยขั้นตอนการลงครีมกันแดดให้สาวๆ
ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเนื้อครีมกันแดดจากบริเวณด้านในสู่ด้านนอกของใบหน้าไปในทิศทางเดียวกัน
เพื่อให้เนื้อครีมดูเรียบเนียน
พร้อมรอจนเนื้อครีมซึมลงสู่ผิวหน้าสักพักก่อนเช่นกัน
หลังจากนั้นเมื่อเข้าสู่ขั้นตอนของการลงรองพื้น ให้สาว ๆ
ใช้ปลายนิ้วหรือฟองน้ำกดรองพื้นลงบนผิวหน้าแทนการปาด
เนื่องจากการปาดจะทำให้เห็นเนื้อรองพื้นเป็นเส้น และอาจเกิดคราบได้ง่าย
ปิดท้ายด้วยการลงแป้งฝุ่น ซึ่งหากสาว ๆ
ใช้แปรงปัดแป้งจะทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่บางเบา ดูเป็นธรรมชาติ แต่หากต้องการการปกปิดที่มากยิ่งขึ้น
อาจจะใช้พัฟฟ์แทน
โดยวิธีการใช้ก็เช่นเดียวกับการทารองพื้นคือใช้วิธีกดแป้งลงบนใบหน้าแทนการปาดนั่นเอง
ใช้ครีมกันแดดอย่างไร ให้ได้รับประสิทธิภาพเต็มร้อย
ผู้หญิงหลายคนอาจจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้ครีมกันแดดนั้น
เราควรใช้หลังจากการทามอยซ์เจอไรเซอร์บำรุงผิวหน้า และก่อนการลงรองพื้นแต่งหน้า
แต่แท้จริงแล้วยังมีรายละเอียดสำคัญที่สาวๆ หลายคนอาจจะยังไม่รู้
หรืออาจจะเผลอมองข้ามไป นั่นคือการเว้นระยะเวลาในแต่ละลำดับขั้นตอน
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สาวๆ ควรจะเว้นระยะเวลาประมาณ 20-30 นาทีในแต่ละชั้น ก่อนและหลังการทาครีมกันแดด
เพื่อที่ครีมแต่ละชนิด ไม่ว่าจะเป็น มอยซ์เจอไรเซอร์ ครีมกันแดด หรือรองพื้น
ไม่ผสมรวมกัน จนทำให้ประสิทธิภาพในการปกป้องรังสียูวีของครีมกันแดดลดน้อยลง
นอกจากนี้การใช้ปริมาณครีมกันแดดให้เหมาะสมก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน
โดยสาว ๆ ควรใช้ครีมกันแดดประมาณ 2 ข้อนิ้วชี้สำหรับการทาให้ทั่วผิวหน้า
เพื่อให้ได้รับการปกป้องจากภัยของรังสียูวีตามค่า spf ที่ระบุในบรรจุภัณฑ์
เพราะหากเราใช้ในปริมาณที่น้อยเกินไปประสิทธิภาพที่ได้ก็จะลดลงตามไปด้วย
สวยเนี้ยบไร้ริ้วรอย
ด้วยเครื่องสำอางผสมสารกันแดด
เครื่องสำอางที่ผสมสารกันแดดก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้คุณรอดพ้นเงื้อมมือจากภัยของรังสียูวีไปได้
โดยเฉพาะไอเท็มพื้นฐานสำคัญของการแต่งหน้า อย่างรองพื้น หรือบีบีครีม สาวๆ
ควรเลือกที่มีส่วนผสมของสารกันแดด และให้มีค่า spf
ตั้งแต่ 15 ขึ้นไป เพื่อเพิ่มความมั่นใจในแต่ละวันของคุณให้มากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพช่วยปกปิดริ้วรอยต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้นบนใบหน้า ช่วยปรับผิวหน้าให้เนียนเรียบเปล่งปลั่งกระจ่างใส
ทั้งนี้การเลือกใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารกันแดด
ยังช่วยป้องกันปัญหาการเจือจางของครีมกันแดดได้อีกด้วย
เนื่องจากเนื้อผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติในการป้องกันรังสียูวี
จึงทำให้ถึงแม้ว่าจะเกิดการผสมกันระหว่างการใช้แต่ละขั้นตอน
ครีมกันแดดก็ยังสามารถให้ประสิทธิภาพในการป้องกันได้อย่างดีเยี่ยมเช่นเดิม
เทคนิคการทาครีมบนใบหน้าเพื่อกระชับผิวหน้าและลดริ้วรอยที่เกิดก่อนวัยอันควร
1. แต้มครีมให้ทั่วทั้ง 6 จุด บนใบหน้า คือ เริ่มจากหน้าผาก จมูก แก้มทั้งสองข้าง คาง และตา
2. ใช้นิ้วกลางและนิ้วนางในการเกลี่ยครีมให้ทั่วใบหน้า
โดยเริ่มเกลี่ยเนื้อครีมจากบริเวณแก้มข้างจมูกไล่ขึ้นไปทางโหนกแก้มทั้งซ้ายและขวาพร้อมๆ
กัน โดยเว้นบริเวณใต้ตาเอาไว้ก่อน
3. สำหรับการทาครีมรอบดวงตาควรใช้นิ้วนางเพียงนิ้วเดียวในการทาและใช้ปริมาณในการทาครีมเพียง
1 เมล็ดถั่วเขียวเท่านั้น
สาเหตุที่ต้องใช้นิ้วนางเท่านั้นในบริเวณนี้เพราะนิ้วนางจะให้น้ำหนักกดที่เบาที่สุด
โดยนวดไล่ตามแนวโครงกระดูกเบ้าตาจากหัวตาก่อน จากนั้นค่อยๆ วนครีมรอบ ๆ ดวงตา
โดยวนออกไปทางหางตาทั้งสองข้าง
4. หลังจากทาครีมรอบดวงตาเสร็จแล้วให้กลับมาเกลี่ยครีมบริเวณใบหน้าที่เหลือโดยเริ่มจากสันจมูกออกไปทางด้านข้างทั้งสอง
ทำแบบเดียวกันนี้กับหน้าผากและคางจนเนื้อครีมเรียบเนียนเท่ากันหมด ทั้งนี้
ยังคงใช้นิ้วกลางและนิ้วนางในการทาครีมให้ทั่วใบหน้า
5. เมื่อเนื้อครีมเข้าที่ดีแล้ว
ให้ใช้นิ้วกลางและนิ้วนางในการนวดกรอบข้าง ๆ ใบหน้าโดยเริ่มจากคางและค่อยๆ
นวดขึ้นไปจนถึงหน้าผาก บริเวณหน้าผากค่อยๆ นวดโดยเริ่มจากด้านนอกเข้าด้านใน
เพียงเท่านี้เนื้อครีม จะซึมซับลงสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้นกว่าการทาครีมปกติและยังช่วยลดเลือนปัญหาริ้วรอยก่อนวัยอันควร
ต่อต้านริ้วรอยได้ง่ายๆ
แค่ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
เพียงแค่คุณเลือกรับประทานอาหารประเภทที่ให้คุณประโยชน์ในการช่วยต่อต้านริ้วรอย
และรักษาความชุ่มชื้นของผิวหลังออกแดด ก็สามารถช่วยชะลอริ้วรอยของคุณให้เกิดขึ้นช้าลงได้
อย่างเช่น อะโวคาโด
ที่ได้รับการยกย่องมาอย่างยาวนานว่าเป็นผลไม้ที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านริ้วรอยอย่างเต็มเปี่ยม
เนื่องจากน้ำมันที่พบในอะโวคาโด
สามารถซึมซับเข้าสู่ร่างกายได้มากกว่าผลไม้ชนิดอื่น
ทำให้ช่วยคงความอ่อนเยาว์ให้กับคุณได้ดีที่สุด
ส่วนผักใบเขียว ถือเป็นหนึ่งสิ่งที่สาวๆ
สามารถหามารับประทานได้ง่าย
พร้อมทั้งมีคุณประโยชน์มากมายในเรื่องของสารต้านอนุมูลอิสระและการชะลอวัย
โดยในผักใบเขียวนั้นจะมีสารที่ชื่อว่า luxin
และ zeaxanthin ซึ่งมีคุณสมบัติที่จะช่วยป้องกันผิวของคุณจากภัยของรังสียูวี
นอกจากนี้ ผลเบอร์รี่ชนิดต่างๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผลเบอร์รี่ที่มีสีเข้ม
จะมีความเข้มข้นของสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าสีอ่อน และมีกรดฟีโนลิก วิตามินซี
และโฟเลตสูง ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ ผิวพรรณชุมชื้นสดใส
พร้อมช่วยฟื้นฟูคอลลาเจน ทำให้ผิวหนังเราไม่เหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร
รู้วิธีเตรียมรับมือกับแสงแดดช่วงซัมเมอร์นี้อย่างถูกวิธีแล้ว
รับรองว่าสาวๆ ได้อวดผิวสวยใส ห่างไกลริ้วรอยไปอีกนาน
ขอบคุณบทความดีๆเกี่ยวกับผิวพรรณ จาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น