เพราะ…ไม่มีใครเข้าใจ ธรรมชาติของลูก ได้ดีเท่าแม่

 By: xooxoxxiimix    02:37  เพราะ…ไม่มีใครเข้าใจ ธรรมชาติของลูก ได้ดีเท่าแม่, แม่และเด็ก   No comments

Post by พลอย มัลลิกะมาส

     เคยได้ยินบ้างมั้ยคะว่า พฤติกรรมของคุณแม่ในช่วงระหว่างตั้งครรภ์ มักส่งผลกับลักษณะนิสัยของลูกน้อยในครรภ์ เป็นต้นว่า หากตอนตั้งท้องคุณแม่รู้สึกง่วงเหงา หาวซึม วันๆ อยากแต่จะนอน ลูกที่เกิดมาก็มักจะเป็นเด็กอารมณ์เรื่อยๆ ชิลล์ๆ ขณะที่ถ้าตอนท้องแม่เป็นคนแอ็คทีฟ ไฮเปอร์ หรือเป็นยอดคุณแม่นักกิจกรรม เจ้าตัวน้อยที่ออกมาก็มักจะเป็นเด็กเอาท์ดอร์ (Outdoor) ที่ชื่นชอบการออกไปทำกิจกรรมต่างๆ นอกบ้านอย่างสุดๆ
.
     ด้วยอาชีพนักเขียนและนักเดินทางอิสระทำให้ฉันมีโอกาสออกเดินทางท่องโลก ไม่เว้นแม้แต่ในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์ที่ฉันและลูกน้อยในครรภ์ได้มีโอกาส เดินทางไกลไปด้วยกันเสมอ ไม่ว่าจะเป็นทริปตะลุยแดนหิมะขาวที่เกาะฮอกไกโด หรือการเดินทางเพื่อแกะรอยสถาปัตยกรรมโคโลเนี่ยลในเมืองต่างๆ ตั้งแต่เหนือจรดใต้ในประเทศศรีลังกา ดินแดนที่ได้ชื่อว่า ไข่มุกเม็ดงามแห่งเอเชียใต้
.
     จากประสบการณ์ตรงที่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง แน่นอนว่าการได้ติดสอยห้อยตามฉัน และออกเดินทางไปด้วยกันตั้งแต่อยู่ในพุงตามสถานที่ต่างๆ ตลอดระยะเวลาของการตั้งครรภ์นั้น ได้ส่งผลโดยตรงต่ออุปนิสัยใจคอของเจ้าลูกชายตัวน้อยของฉันอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการชอบออกไปเที่ยวนอกบ้าน, ชอบนั่งรถเป็นชีวิตจิตใจ, ติดใจการเดินสูดอากาศในสวนสาธารณะ และที่สัมผัสได้อย่างชัดเจนที่สุดก็คือ การเป็นพพายเป็นเด็กที่ช่างสังเกต สนใจสิ่งต่างๆรอบตัวและพร้อมที่จะเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ทดลองทำอะไรใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการว่ายน้ำ และการฝึกโยคะ ที่ฉันพาเขาทดลองกิจกรรมดังกล่าวตั้งแต่อายุได้เพียง 2 เดือน ไม่น่าเชื่อเลยค่ะว่า นอกจากจะไม่เคยร้องงอแงเลยซักนิด เจ้าตัวเล็กยังตั้งอกตั้งใจทำกิจกรรมทุกอย่างที่แม่สรรหามาให้ลอง อย่างยิ้มแย้มแจ่มใสและอารมณ์ดีที่สุด
.
     ว่ากันว่า สัมพันธภาพระหว่างแม่กับลูก คือ ความสัมพันธ์ที่ปราศจากจุดเริ่มต้นและไม่มีจุดสิ้นสุด ด้วยว่า สายใยความผูกพันระหว่างคนสองคนที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันมานานกว่า 9 เดือนเต็มนั้นเป็นความสัมพันธ์ “อเนกอนันต์” (Infinite) ที่แนบแน่นและใกล้ชิดกันมากที่สุด มาก..เท่าที่ธรรมชาติจะสรรสร้างให้คนสองคน ได้มีโอกาสเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ลมหายใจเดียวกันในช่วงเวลาหนึ่ง จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า เพราะอะไร ‘แม่’ จึงเป็นคนที่สมควรจะรู้จักและเข้าใจธรรมชาติของลูกได้ดีที่สุด
.
     ใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่า เด็กๆแต่ละคนต่างมีเอกลักษณ์และลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไปตามแต่ อุปนิสัยใจคอของแต่ละคน การยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น และเปิดโอกาสให้เขาได้มีโอกาสค้นหาตัวเอง เพื่อค้นพบสิ่งที่ตัวเองสนใจในวิถีทางที่สอดคล้องกับธรรมชาติของเขา โดยเฉพาะบทบาทหลักของ คุณแม่ บุคคลที่ได้ชื่อว่าใกล้ชิดและเข้าใจธรรมชาติของเจ้าตัวน้อยได้ดีที่สุด นับตั้งแต่วันแรกที่เขาได้..ปฏิสนธิ.
.
     (สำหรับคุณแม่ท่านใดที่อยากทำความรู้จักกับเจ้าตัวน้อยที่บ้านในแง่มุม ต่างๆ ในใกล้ชิดยิ่งขึ้น ลองเปิดเข้าไปดู ภาพยนตร์โฆษณาของผลิตภัณฑ์เบบี้มายด์ ชุด “ไม่มีใครเข้าใจธรรมชาติของลูกน้อยได้ดีเท่าแม่” แล้วคุณอาจจะค้นพบว่า การเลี้ยงลูกไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัว เพราะด้วยธรรมชาติของเด็กแต่ละคนนั้นล้วนแต่แตกต่างกันไปตามลักษณะเฉพาะ บางครั้งบางคราว บทเพลงร็อคโยกหัว อาจจะเป็นเสียงเพลงกล่อมนอนที่เขาชื่นชอบที่สุด ขณะที่การได้ออกไปนั่งดูดนมจากเต้าในสวนหลังบ้าน แทนการนั่งดูดนมในมุมห้องนั่งเล่นที่เคยคุ้นชิน ก็อาจจะกลายเป็นภาพความทรงจำที่พวกเขาจดจำได้ ..ไม่มีวันลืม)

** My Baby My Theory ร่วมแบ่งปันประสบการณ์การเลี้ยงลูก ในแบบของคุณ และ ลุ้นเป็น 1 ใน 100 สุดยอดคุณแม่กับทฤษฎีการเลี้ยงรูปในรูปแบบ Gallery ที่ http://www.babimild.com/ultramild/

 

ขอขอบคุณบทความเกี่ยวกับแม่และเด็ก เพราะ…ไม่มีใครเข้าใจ ธรรมชาติของลูก ได้ดีเท่าแม่ จาก http://www.ploymallikamas.com/where-am-i-read-more.php?blog_id=23