วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2557

6 เดือน เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว



น้ำนมแม่คืออาหาร ที่ดีและวิเศษสุดของมวลมนุษย์ เป็นอาหาร แห่งความเอื้ออาทรของ แม่สู่ลูก การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นศิลปะแห่งความสวยงามของชีวิต เพราะน้ำนมแม่ไม่เพียงแต่จะทำให้ลูกอิ่มท้องและสร้างความเจริญเติบโตด้านร่างกายของลูกได้อย่างเหมาะสมเท่านั้น แต่ยังพัฒนา จิตใจของแม่และลูกได้อย่างดีเลิศ
  ทำไมต้องเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
         คุณแม่รู้หรือไม่ว่าตัวคุณแม่เองสามารถสร้างความ ฉลาดให้ลูกได้ ด้วยการให้ลูกกินนมแม่ถึง แม้ว่าความฉลาด (ไอคิว) จะขึ้นอยู่กับสิ่งสำคัญ 3 อย่างคือ กรรมพันธุ์จากพ่อแม่ การเลี้ยงดู และอาหาร ที่เหมาะสม แต่การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นตัวช่วยสำคัญ ที่ทำให้สมองลูกเจริญเติบโตดียิ่งขึ้นไปอีก เพราะว่า
1. นมแม่มีสารไขมันที่จำเพาะสำหรับสมองทารกแรกเกิดในระยะ 6 เดือนแรก ร่างกายยังสร้างน้ำย่อยไขมันไม่ได้เต็มที่ นมแม่ก็มีน้ำย่อยไขมันมาด้วย ดังนั้นสารไขมันในนมแม่จึงถูกนำไปใช้สร้างสมองลูกได้อย่างเต็มที่ ต่างจากไขมันที่โฆษณาในนมผสม
2. นมแม่มีสารอาหารอื่นๆ กว่า 200ชนิดที่จะช่วยเสริมการพัฒนาสมองและจอประสาทตา
3. เด็กกินนมแม่สมองดี ตาเห็นได้ดี ช่วยส่งเสริม พัฒนาการมากขึ้น
4. ขณะที่ลูกกินนมแม่ ลูกจะอยู่ในอ้อมกอดของแม่ วันละอย่างน้อย 7-8 ครั้ง
5. การอุ้มลูกเป็นการช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัส ทำให้เซลล์สมองมีการโยงใยมากขึ้น ยิ่งโยงใยมาก สมองก็ยิ่งฉลาดมาก ถ้าสัมผัสน้อย การโยงใยก็น้อยกว่า สมองส่วนนั้นก็จะฝ่อไปในที่สุด
            ทำไม 6 เดือนแรกให้นมแม่อย่างเดียว
ชื่อว่ามีหลายคนสงสัยคำแนะนำที่ผ่านมาคือ เริ่มให้อาหารเสริมลูกพร้อมนมแม่เมื่อลูกอายุ 4 เดือน แต่ปัจจุบันกลับแนะนำให้นมแม่อย่างเดียวถึง 6 เดือนสมัยเมื่อ 50 ปีที่แล้ว กินนมแม่ กินข้าวและกินกล้วย ตั้งแต่ 2 เดือน กินน้ำส้มคั้น 1เดือน คือการแสดงความรักของพ่อแม่ ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2522 พบว่าควรจะกินนมแม่อย่างเดียว 4 เดือน ตอนนั้นไม่มีใครกล้าระบุ ไป4-6 เดือน
        เหตุที่ 4-6 เดือน เพราะพบเด็กที่กินนมแม่ผสมข้าว เจ็บป่วยบ่อยเมื่อเทียบกับเด็กที่กินนมล้วนๆ... เวลาผ่านไป 20 ปี องค์การอนามัยโลก ประกาศปี พ.ศ. 2545 ว่า กินนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน เพราะว่ามีข้อมูลการศึกษาใหม่ๆ ยืนยันว่า การให้นมแม่อย่างเดียวที่ยาวนานขึ้น มีผลดีต่อเด็กๆ มากกว่า นั่นคือลดโอกาสการเกิดโรคท้องเสีย โรคทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ รวมทั้งส่งผลดีต่อพัฒนาการทางสมองของเด็กมากกว่าด้วย
        ดังนั้น ขอให้คุณแม่เชื่อมั่นว่า 6 เดือนแรกลูกกินนมแม่อย่างเดียว ลูกไม่ขาดน้ำไม่ขาดอาหาร อย่างแน่นอน ที่สำคัญเท่ากับได้เริ่มต้นสิ่งดีๆ ให้กับชีวิตลูกน้อย นั่นคือ
1. ระยะ 6 เดือนแรก สมองลูกเติบโตเร็วมาก นมแม่เหมาะกับสมองที่โตเร็ว
2. ระยะ 6 เดือนแรก ทางเดินอาหารลูกยังย่อยอาหารอื่นได้ไม่ดี นมแม่ย่อยง่ายที่สุด
3. ระยะ 6 เดือนแรก ลูกยังสร้างภูมิคุ้มกัน ได้ไม่ดี นมแม่มีภูมิคุ้มกันมาด้วย
4. ระยะ 6 เดือนแรก กระเพาะอาหารมีขนาดเล็กนิดเดียว ยืดหยุ่นได้ไม่มาก ถ้าได้อาหารอื่น นอกจากไปแย่งที่แล้วอาหารเหล่านี้มีสารอาหารสู้นมแม่ไม่ได้
         การให้ลูกกินอาหารอื่นด้วย จะทำให้ลูกมีโอกาสเจ็บป่วยบ่อยกว่า เพราะมีโอกาสจะรับเชื้อโรคที่ปนมากับอาหารเหล่านั้นได้มาก รวมทั้งมีโอกาสแพ้โปรตีนที่ มากับนมผสมหรืออาหารอื่นด้วย และอาหารอื่นเหล่านี้ รวมถึงน้ำด้วย นอกจากจะไปแย่งที่นมแม่แล้ว ทำให้ ลูกอิ่มและดูดนมแม่น้อยลง แม่ก็จะสร้างน้ำนมได้น้อยลง และนมแม่ก็จะหมดไปในที่สุด
        นมแม่ดีอย่างไร
ภูมิคุ้มกันจากแม่ถึงลูก
       นมแม่มีภูมิคุ้มกัน มีเซลล์คอยดักจับเชื้อโรค สารย่อยสลายเชื้อโรค สารต่อต้านการติดเชื้อต่างๆ ที่ทำงาน ประสานและรวมพลังกัน นอกจากนี้ ในนมแม่มีสารภูมิคุ้มกันที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ระบบทางเดินอาหารและทางเดินหายใจ ช่วยกำจัดเชื้อโรค มีวิตามินเอและสารเร่งการเจริญเติบโต ของเยื่อบุทางเดินอาหาร ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายลูกน้อย ได้ยากขึ้น ภูมิคุ้มกันเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทารกเพราะลูกวัยนี้ยังสร้างภูมิคุ้มกันได้ไม่ดี  ปกติแล้วเด็กแรกเกิดทุกคนได้รับภูมิคุ้มกันเชื้อโรค จากแม่ผ่านทางสายสะดือ ถ้าให้ลูกกินนมแม่ ลูกก็จะได้รับภูมิคุ้มกันจากนมแม่เพิ่มอีกทาง กลายเป็นสองแรงแข็งขันช่วยป้องกันลูกจากเชื้อโรคได้มากยิ่งขึ้น
       ลูกแข็งแรง ไม่ป่วยบ่อย
       นมแม่ระยะ 1 สัปดาห์แรกเป็นยอดน้ำนม เรียกว่า โคลอสตรัม หรือหัวน้ำนม เป็นน้ำนมที่มีภูมิคุ้มกันสูงสุด คุณแม่ควรให้ลูกได้กินหัวน้ำนมนี้ แม้ว่าตอนหลังจะไม่ต้องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ก็ตาม เด็กที่กินนมแม่จะมีโอกาสเจ็บป่วยน้อยกว่าเด็กที่กินนมผสม ประมาณ 2-7 เท่า และลดโอกาสเกิดโรคลำไส้อักเสบในเด็กแรกเกิดถึง 20 เท่า ส่วนโรคอื่นๆ ก็ลดโอกาสเกิดได้ 2-5.5 เท่า เช่น โรคท้องเสีย ปอดบวม หูชั้นกลางอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ทางเดินปัสสาวะอักเสบ ภูมิแพ้ และเบาหวาน
       ลดภูมิแพ้
        ช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต การทำงาน ของส่วนต่างๆ ยังไม่เท่าผู้ใหญ่ เยื่อบุลำไส้ยังไม่แข็งแรง น้ำย่อยอาหารยังไม่เพียงพอที่จะย่อยอาหารเหล่านี้ สารช่วยย่อยหรือสารภูมิคุ้มกันยังทำงานไม่เต็มที่  ถ้าให้ลูกกินอาหารอื่น เช่น นมผง ข้าว กล้วย ลูกก็ยังย่อยได้ไม่ดี นำไปสู่การแพ้ได้ปัจจุบันพบโรคแพ้โปรตีนนมวัวมากขึ้น หากลูกน้อยกินนมแม่เพียงอย่างเดียว จะได้โปรตีนจากนมแม่ที่จำเพาะสำหรับลูกคน ไม่กระตุ้นให้เกิดการแพ้ แต่ถ้าให้ลูกกินนมผสมก็จะได้โปรตี
นนมวัว ซึ่งสำหรับร่างกาย ลูกวัย 6 เดือนแรกถือเป็นสิ่งแปลกปลอม ร่างกาย ของลูกบอบบางไม่สามารถกำจัดออกไปได้ อาจเกิดอาการแพ้
      อารมณ์ดี อีคิวเพียบ
      การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ นอกจากลูกฉลาดแล้ว ลูกอารมณ์ดี เลี้ยงง่าย ไม่ร้องไห้โยเยบ่อยๆ  การให้ลูกกินนมแม่ แม่โอบกอด สัมผัสระหว่างแม่และลูก ทำให้ลูกเกิดความอบอุ่น รู้สึกถึงความรัก ที่แม่มอบให้ ลูกก็จะเกิดความสุขขึ้นในใจ เมื่อลูกมีความสุข ก็เลี้ยงง่าย ไม่โยเย ร่างกายของแม่เองก็หลั่งสารที่ทำให้แม่มีความสุข อารมณ์ดี ขณะให้นมลูก หากแม่ได้สบตา ยิ้มกับลูก ชวนลูก พูดคุย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกให้ค่อยๆ ซึมซับสิ่งที่ดีวันละเล็กละน้อย นำไปสู่การมีอารมณ์ที่ดี อิ่มอุ่นรัก ด้วยนมแม่


ขอบคุณบทความดีๆเกี่ยวกับแม่และเด็ก จาก มูลนิธิหมอชาวบ้าน



Share:

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

© ผู้หญิงวันนี้ All rights reserved | Theme Designed by Seo Blogger Templates