การใช้ยาเพื่อบรรเทาความป่วยไข้สำหรับคนแต่ละวัยนั้นไม่เหมือนกัน
ยาบางชนิดเหมาะสำหรับผู้ใหญ่ แต่ไม่เหมาะสำหรับเด็ก ด้วยเหตุนั้น
ก่อนให้ยาสำหรับลูกน้อย จะต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบอย่างไรบ้าง
เภสัชกรหญิง ฤดีรัมภา ตันนามัย เภสัชกรชำนาญการ โรงพยาบาลเด็ก กล่าวว่า ยาแก้ปวดลดไข้ทั่วไป มีอยู่ด้วยกันสามชนิด ชนิดแรกที่รู้จักกันดี
ก็คือ พาราเซตามอล อีกตัวที่ชอบใช้กันก็คือแอสไพริน
ส่วนตัวสุดท้ายก็คือไอบิวโพรเฟ่น
“พาราเซตามอล นั้นปลอดภัยที่สุด ส่วนอีกสองตัวนั้นไม่แนะนำในเด็ก
เพราะว่ามีผลทำให้เกร็ดเลือดไม่ค่อยแข็งตัว เลือดไหลง่าย อย่างเช่นแอสไพริน
หมอจะไม่แนะนำเลยสำหรับผู้ป่วยจากโรคไข้เลือดออก
และขณะที่เราอาจจะยังไม่รู้ว่าเป็นไข้เลือดออกหรือเปล่า
เราก็แนะนำให้เลี่ยงไปก่อนเลย สำหรับเด็ก ส่วนไอบิวโพรเฟ่น อาจจะใช้ได้ในภาวะที่มีไข้สูง
เพราะว่ามันค่อนข้างออกฤทธิ์เร็วกว่าพาราเซตามอล”
เด็กแรกเกิดถึง 6
เดือน ต้องระมัดระวังในการใช้ยาลดไข้ เพราะอาจมีผลเสียต่อตับได้ ควรใช้การเช็ดตัวลดไข้เป็นหลัก
และใช้ยาลดไข้พาราเซตามอล ถือเป็นยาที่มีความปลอดภัยสูงในเด็ก มีให้เลือกใช้ 3
ชนิดคือ ชนิดหยดสำหรับเด็กเล็กๆ และเด็กที่กินยายาก (ขนาด 1 ซีซีต่อน้ำหนักตัว 10 กก.)
หลักการทานยาสำหรับเด็ก จากข้อมูลของโรงพยาบาลเด็ก มีการให้คำแนะนำไว้ ดังต่อไปนี้ คือ
ชนิดน้ำเชื่อมสำหรับเด็กเล็ก (ขนาด 1 ช้อนชาหรือ 5 ซีซีต่อน้ำหนักตัว 10 กก.)
และชนิดน้ำเชื่อมสำหรับเด็กโต (ขนาด 1 ช้อนชาต่อน้ำหนักตัว 20
กก.) แนะนำให้ใช้ทุก 4-6 ชั่วโมงเวลามีไข้
สำหรับยาลดไข้ไอบูโปรเฟนที่หลายคนเรียกว่า ยาลดไข้สูง
มักช่วยให้ลดไข้ได้ดีกว่ายาพาราเซตามอล
แนะนำให้ใช้เป็นยาเสริมเพิ่มเติมเมื่อใช้ยาพาราเซตามอลแล้วไข้ไม่ลดลงหรือ
ไข้ขึ้นอีก แต่ยังไม่ถึงเวลาจะให้ยาพาราเซตามอลในมื้อถัดไป
อย่างไรก็ตาม เด็กเล็กมีความเสี่ยงในการติดเชื้อต่างๆ
เนื่องจากร่างกายยังสร้างภูมิคุ้มกันได้ไม่สูงเพียงพอในการป้องกันโรค
คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการพาเด็กไปยังสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก เช่น ห้างสรรพสินค้า
โรงพยาบาล หรือฝากเลี้ยงในสถานรับเลี้ยงเด็ก
ควรหมั่นล้างมือและใช้หน้ากากอนามัยปิดปากปิดจมูกเวลาพาเด็กไปในที่ชุมชน
หรือเวลาเจ็บป่วย
ขอบคุณบทความดีๆเกี่ยวกับแม่และเด็ก จาก หนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น